การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ไม่ว่าจะ “สุขสามัญ” (Simple Bliss) ความสุขแบบง่ายๆ ที่เข้าถึงได้ ได้สัมผัสธรรมชาติ “สุขสำราญ” (Indulgent Bliss) ความสุขที่ได้จากการรับการปรนนิบัติดูแลผ่านการล่องเรือ การนวดสปา อาหารอร่อย หรือสุขสงบ (Serene Bliss ) ตั้งแต่ฝึกสมาธิ โยคะ ไปจนถึง Ice-Bath ที่เน้นความสุขมาจากภายใน ทั้งหมดนี้คุณสามารถทำได้ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งยังสอดคล้องกับแคมเปญ Fresh Your Feel, Heal Your Soul ทริปฮีลใจ เติมไฟให้ชีวิต ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยชวนพันธมิตรท่องเที่ยวและคนไทย ผ่าน 3 ความสุขที่ดีทั้งต่อกาย ใจ และจิตวิญญาณ
ในโอกาสนี้คุณอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังได้แบ่งปันความรู้ แนวโน้ม และมุมมองต่อเทรนด์โลก Wellness Tourism ที่นักท่องเที่ยวยุคใหม่ให้ความสนใจและเลือกการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตไปพร้อมกับการท่องเที่ยวเดินทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวในประเทศไทยเองก็มีแนวทางและพฤติกรรมการบริโภคเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในแบบเดียวกัน ควบคู่ไปกับ Sustainable Tourism หรือการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เมื่อกล่าวถึง Wellness Tourism เทรนด์ท่องเที่ยวของโลก คนส่วนใหญ่นึกถึงอะไร ไทยมีอะไรที่โดดเด่นจนต้องกล่าวถึง
ถ้าพูดถึง Wellness Tourism เทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ดีต่อทั้งกาย ใจ จิตวิญญาณ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงการท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ที่มีทั้งความสบายกายและสบายใจไปพร้อมๆ กัน เป็นการท่องเที่ยวที่ทำให้เราได้กลับไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตื่นขึ้นมาแต่เช้าได้กินอาหารอร่อยเพื่อสุขภาพ ได้การรับการปรนนิบัติดูแลด้วยการนวด ทำสปา ไม่ต้องเลื่อนดูหน้าจอโทรศัพท์ ได้หายใจสบายๆ ลึกๆ แล้วก็มีเวลาให้กับตัวเอง
โดยปัจจัยโดดเด่นในการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ในประเทศไทยอย่างแรกเลยที่สำคัญที่สุดคือ หนึ่ง ความอ่อนโยน มีใจบริการของคนไทย เน้นไปที่เรื่องคน สอง วัตถุดิบและอาหารของประเทศไทยที่เรามีความพร้อมอย่างมากที่สุด สาม ภูมิปัญญาไทย เช่น การนวด การใช้สมุนไพรในการช่วยผ่อนคลาย บำบัดรักษา สี่ ธรรมชาติ ที่เรามีความอุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะทะเล ป่าเขา น้ำตก ที่ยังทำได้สลับกับการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างวัดวาอาราม เยี่ยมชมวิถีชีวิตท้องถิ่นของผู้คนในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการผสานกลมกลืน นำไปสู่การท่องเที่ยวที่ช่วยฟื้นฟูทั้งสุขภาพกาย ใจ และจิตวิญญาณ ครบจบในทริปเดียวได้ครับ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ทั้งเป็นจุดแข็งและความโดดเด่นของการท่องเที่ยวในประเทศไทย
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่าง Wellness Tourism ช่วย Refresh ตัวเราและเศรษฐกิจของประเทศอย่างไรได้บ้าง
ถ้าเป็นในส่วนของตัวเรา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่าง Wellness Tourism จะทำให้เราได้พักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริงแล้วก็ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสดชื่น เหมือนการได้ชาร์จพลังงานดีๆ เยียวยาตัวเอง ก่อนกลับมาทำภารกิจที่เร่งรีบ เคร่งเครียดในชีวิตประจำวันอีกครั้ง ซึ่งนอกจากช่วยบรรเทาความเครียด ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ และความคิดสร้างสรรค์ได้
ส่วนในเรื่องของเศรษฐกิจ Wellness Tourism ปัจจุบันได้กลายมาเป็นคำสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เกิดความตระหนักและเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น การปรับตัวและพัฒนาตนเองของผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและธรรมชาติจะเพิ่มมูลค่า โอกาส สร้างรายได้ ทั้งในภาคธุรกิจเองและในแง่การกระจายรายได้สู่ชุมชนที่อยู่ในระบบนิเวศธุรกิจเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ โฮมสเตย์เล็กๆ ร้านอาหาร ร้านนวดสมุนไพรต่างๆ ไปจนร้านขายของที่ระลึกก็สามารถเติบโตไปพร้อมกันจากเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเทรนด์ท่องเที่ยวยั่งยืน ที่ไม่เบียดเบียนธรรมชาติ มีใจส่งต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพให้กับคนรุ่นถัดไป
สถานที่ สินค้า และบริการด้าน Wellness Tourism ที่นึกถึงและอยากแบ่งปันจากประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองไทย
สถานที่ สินค้า และบริการด้าน Wellness Tourism ในประเทศไทยมีเยอะมาก ถ้าให้พูดถึงในนาทีนี้ ในส่วนของบริการผมนึกถึงการไปใช้บริการแช่น้ำแร่ ที่จังหวัดระนองครับ ซึ่งเป็นเมืองน่าเที่ยวที่อยากให้หลายคนได้ไปลองเปิดประสบการณ์ในมุมมองของจังหวัดที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งดีต่อสุขภาพในแง่การผ่อนคลาย ลดความเครียด กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการปวด ดูแลผิว ทั้งยังสามารถผสมผสานการท่องเที่ยวที่หลากหลายอย่างการไปกินอาหารทะเล ไปเยี่ยมชมหมู่บ้าน สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนและผู้คนในจังหวัดระนองด้วยตัวเอง
ถ้าพูดถึงการมีเวลาให้กับตัวเองในรูปแบบของการสัมผัสธรรมชาติ การเดินป่า ได้ไปดูนก ดูต้นไม้ หนึ่งในสถานที่ที่นึกถึงคือหนึ่งเมืองน่าเที่ยวอย่างจังหวัดน่านครับ เพราะมีธรรมชาติที่สวยสดงดงาม อากาศดี โดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติที่ทำให้ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ และเรียนรู้เรื่องสัตว์ป่าที่มีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา อุทยานแห่งชาติขุนน่าน อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
ส่วนถ้าพูดถึงการชมพระอาทิตย์ตก เมืองไทยมีหลายวิวพระอาทิตย์ตกที่งดงามมาก หนึ่งนั้นคงต้องพูดถึงการชมพระอาทิตย์ตกวิวทะเลที่จังหวัดภูเก็ต ที่มาพร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม ทรายที่ขาว น้ำทะเลที่ใสดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ช่วย Fresh Your Feel, Heal Your Soul สลับการท่องเที่ยวในย่านโอลทาวน์ และมีบริการด้าน Wellness ที่รวมถึงการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่มีให้เลือกหลากหลายภายในจุดหมายปลายทางเดียว พูดได้ว่าถ้ามีเวลาก็อยากไปอยู่กับธรรมชาติได้ผ่อนคลาย ได้เปิดประสบการณ์ แบบไม่ต้องพูดอะไรกันมากครับ (ยิ้ม)
มุมมองต่อแนวโน้ม Wellness Tourism ของประเทศไทยในอนาคต
ผมมองว่า Wellness Tourism มีการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในผู้ใช้บริการคนไทยและชาวต่างชาติ สำหรับในส่วนของประเทศไทยในยุคสมัยนี้ คนอยากท่องเที่ยวแบบคุณภาพมากขึ้น และท่องเที่ยวแบบผสมผสานกันมากขึ้น และการท่องเที่ยวแบบ Wellness Tourism จะกลายมาเป็นเทรนด์ทางเลือกสำคัญในการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายในตัวเอง เริ่มจากการพักผ่อน การกินอาหารสุขภาพ การได้รับการปรนนิบัติ การได้ขยับร่างกาย การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ไปได้ดีกับการแนวทางการท่องเที่ยวยั่งยืนดังที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนนี้ รวมถึงสามารถผสมผสานไปกับแนวการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม อีกหนึ่งจุดเด่นของประเทศไทย เป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ คนท้องถิ่น และประเทศ หากมีการพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน
ผมอยากเชิญชวนคนไทยนะครับ อยากให้ลองเที่ยวแบบสบายๆ ไม่รีบร้อน ที่ทำให้เรามีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีขึ้น ที่ไม่ว่าจะใกล้บ้าน หรืออยากเดินทางไกลก็สามารถเลือกได้เลย เพราะเมืองไทยเรามีครบ ที่บางที่แค่ได้ยินเสียงลม ได้สัมผัสกลิ่นอายทะเล ได้ชมธรรมชาติ ก็ช่วยให้หายเหนื่อย ยังไม่นับรวมที่พัก สปาและกิจกรรมเพื่อสุขภาพจำนวนมากที่มีให้เลือก ลองไปสักครั้งครับแล้วคุณจะติดใจ
ในส่วนของผู้ประกอบการ เราอยากให้ผู้ประกอบการชาวไทยได้เตรียมตัวพัฒนาตนเองเพื่อรองรับการท่องเที่ยว Wellness Tourism ในอนาคตที่นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มมีความต้องการมากขึ้น ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก และไม่จำกัดว่าจะอยู่ในพื้นที่ไหน ทุกคน ทุกธุรกิจ สามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องและสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็พร้อมสนับสนุน ช่วยประชาสัมพันธ์ และเชื่อมโยงตลาดให้เติบโตไปด้วยกัน